กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB review

รีวิวค่าย MAS Camp #31 ไขปริศนาวิทยาศาสตร์กับ คณะวิทยาศาสตร์ มหิดล [EP.84]

ALL ABOUT MAS Camp #31

  • ค่าย 3 วัน 2 วิทยาเขต ที่น้องๆ จะได้สัมผัสห้องแล็บ และเครื่องมือที่พวกพี่ๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ได้ใช้เรียนของจริง 
  • ค่ายวิทยาศาสตร์ แต่มีการแสดงละครสุดมันส์ กิจกรรมละลายพฤติกรรมที่น้องๆ จะได้สนิทกับเพื่อนๆ พี่ๆในกลุ่มแบบไม่รู้ตัว
  • ไฮไลท์ค่ายสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพราะพี่ศิษย์เก่า จากคณะวิทยฯ มหิดล พร้อมที่จะกลับมาที่ค่ายนี้โดยเฉพาะ เพื่อแนะแนวการเรียนต่อของน้องๆ พร้อมบอกเล่าประสบการณ์หลังเรียนจบ ที่หาที่อื่นไม่ได้แล้ว

สวัสดีค่าาา แคมป์รีวิวกลับมาอีกครั้งแล้วจ้า วันนี้ “พี่จั๊มพ์” จะพาน้องไปทำความรู้จักกับค่าย MAS Camp ครั้งที่ 31 ที่จัดไปเมื่อวันที่ 24-26 มกราคม 2563 โดยคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นั้นเอง น้องๆ สายวิทย์ ห้ามพลาดรีวิวนี้เด็ดขาด! บอกได้เลยคำเดียวว่าครบรส ทั้งกิจกรรมสุดสนุก และความรู้แบบแน่นๆ ถ้าพร้อมกันแล้วไปอ่านกันเล๊ยยย


รู้จักคณะวิทยาศาสตร์ มหิดลกับ “พี่ปัน” ประธานค่าย 

ค่าย MAS Camp
“พี่ปันปัน” อชิรวัตติ์ ถาวรวัชร์นิธิกร ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ มหิดล

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าคณะวิทยาศาสตร์ คือ คณะที่ศึกษาเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ โดยที่มหิดลนี้ มีอยู่ด้วยกัน 2 หลักสูตรด้วยกัน ส่วนสาขานั้นเยอะมากๆ มีอะไรบ้างไปดูกัน


หลักสูตรในคณะวิทยาศาสตร์ มหิดล 

1. หลักสูตรปกติ  มี 6 สาขาวิชาด้วยกันนั้นก็คือ สาขาเคมี สาขาชีวะ สาขาฟิสิกส์ สาขาคณิตศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีชีวภาพ และสาขาพฤกศาสตร์ ทั้งหมดนี้ปี 1 เรียนที่วิทยาเขตศาลายา ปี2-4 เรียนที่วิทยาเขตพญาไท

2. หลักสูตรนานาชาติ มี 2 สาขาวิชา สาขาคณิตศาสตร์ประกันภัย และสาขาคณิตศาสตร์อุตสาหการ เรียนที่วิทยาเขตพญาไท 4 ปี ส่วนอีก 4 สาขาวิชา นั้นก็คือ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ สาขาวิชาทรัพยากรชีวภาพ สาขาวิชาวัสดุศาสตร์และวิศวกรรมนาโน และสาขาวิชาชีวนวัตกรรม เรียนที่วิทยาเขตศาลายาทั้งหมด 4 ปี น้องๆ สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดหลักสูตรในเว็บของคณะ ที่นี่ ได้เลย


แต่ละปีเรียนอะไรกันบ้าง

ชั้นปีที่ 1 สำหรับคณะวิทยศาสตร์ เราจะเรียนเนื้อหา ม .4 – 6 มารวมกันภายในปีเดียว เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ คณิตศาสตร์ แล็บวิชาต่างๆ ซึ่งเนื้อหาบางส่วนก็คล้ายๆ กับมัธยมแต่จะลึกขึ้นกว่าเดิมระดับนึงเลย แล้วก็สำหรับมหาวิทยาลัยมหิดล เด็กปี 1 จะต้องมีเรียนวิชาภาษาอังกฤษและภาษาไทยด้วย (แต่ภาคนานาชาติที่เรียนที่ศาลายาไม่ต้องเรียนนะ)

ชั้นปีที่ 2 สำหรับภาคปกติจะมีการแยกสาขาวิชา โดยเราใช้เกรดในชั้นปี 1 ในการแยกภาค อย่างพี่เข้าภาควิชาเคมี (ตอนรับน้องเข้า ทางอาจารย์ท่านก็พาไปดูโรงงานที่สำคัญต่างๆ หลายที่ด้วยนะ) ยกตัวอย่างภาคเคมีที่พี่เรียน ก็จะมีวิชา Organics 1, Analyte 1, statistics, Kinetics, safety and waste, Lab Analyte 1, computer และอื่นๆ อีกเยอะมาก ส่วนในช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้นปี 3 ถ้าหากน้องๆ มีความสนใจฝึกทักษะการทำแล็บมากขึ้น ก็สามารถขออาจารย์ฝึกแล็บที่สนใจก่อนเปิดเทอมได้

ชั้นปีที่ 3 จะเน้นทำแล็บที่เพิ่มมากขึ้น และก็จะมีวิชาเลือก วิชาเสรีให้เลือกเรียนอีกมากมายแล้วแต่ความชอบของน้องๆแต่ละคนเลย ส่วนช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้นปี 4 น้องๆ ก็สามารถเลือกได้ว่าจะไปฝึกงานข้างนอกหรือว่าเก็บหน่วยกิตแทน สำหรับใช้เรียนต่อป.โท หรือว่าไปแลกเปลี่ยนระยะสั้นที่ต่างประเทศก็ได้

ชั้นปีที่ 4 หลักๆ แล้วจะเน้นวิชาสัมมนา และต้องทำโปรเจคจบ และยังสามารถเลือกเรียนวิชาที่อยากเรียนหรือสนใจเพิ่มเติมได้อีกด้วย


ความพิเศษของ คณะวิทยาศาสตร์ มหิดล 

ที่นี่มี หลักสูตรพิสิฐวิธาน ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเรียนต่อถึงปริญญาเอก โดยไม่จำเป็นต้องเรียนปริญญาโท ซึ่งใช้เวลาเพียง 3-4 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ที่มหิดลยังทุนการศึกษามากมาย มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำนวนเพียงพอต่อนักศึกษาทุกคน ทุกภาควิชาให้ได้ใช้กันอย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องแบ่งกันใช้


ทำไม “พี่ปันปัน” ถึงตัดสินใจมาเรียนคณะนี้

พี่สนใจในด้านวิทย์มาตั้งแต่มัธยม เคยได้มีโอกาสทำโครงงานวิทย์ที่โรงเรียน รวมถึงระดับเขตด้วย เคยเป็นตัวแทนแข่งโครงงานคณิต ระดับมปลาย จึงรู้สึกว่าคณะนี้นี่แหละ น่าจะใช่สำหรับเรา เลยตัดสินใจเลือกเข้าคณะนี้ แล้วชื่นชอบมหาลัยมหิดลอยู่แล้วด้วย


ช่วงโควิดมีวิธีการเรียนยังไง แตกต่างจากเดิมไหม

ในช่วงโควิด ทางคณะก็ได้ปรับรูปแบบมาเป็นการเรียนออนไลน์ 100% ส่วนแล็บก็ศึกษาจากคลิปวิดิโอที่อาจารย์จะส่งให้ทุกอาทิตย์ การสั่งการบ้านก็เปลี่ยนรูปแบบกันออกไปตามวิชาต่างๆ การสอบก็สอบเปิดกล้องทุกวิชา ก็ค่อนข้างต้องใช้เวลาปรับตัวพอสมควรทั้งอาจารย์และนักศึกษาเลยครับ


เรื่องที่มักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ” คณะวิทยาศาสตร์ “

เรื่องที่คนเข้าใจผิดกันบ่อยมากกกคือ จบไปเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ ไม่มีงานทำ เงินเดือนน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว คณะวิทยาศาสตร์ของเรานั้นค่อนข้างเรียนหลากหลายมาก และสามารถนำความรู้ต่างๆในแต่ละสาขามาประยุกต์ในการไปทำงานได้มากมาย ไม่จำเป็นต้องทำงานตรงสายซะทีเดียว หรือถ้าอยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย หรือนักวิจัยก็ได้นะ อยากจะบอกว่าจริงๆ แล้วคณะวิทยาศาสตร์มักจะอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของงานวิจัยอะไรหลายๆ อย่าง โดยที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ว่ามันเกิดมาจากนักวิทยาศาสตร์ด้วยซ้ำ


รีวิวค่าย MAS Camp ครั้งที่ 31 

วันที่ 1

น้องๆ จะได้เข้าฐานกิจกรรมที่คณะเรียน ตรงพญาไท ได้เดินชมตึกเรียน ห้องเรียนของภาควิชาต่างๆ ห้องแล็บ รวมถึงเครื่องมือที่พวกพี่ๆ ได้ใช้เรียนของจริง

ตัวอย่างฐานที่น้องๆ ห้ามพลาด

ฐานเคมี ฐานนี้มีการใช้เครื่อง NMR วิเคราะห์ว่าสารเคมีนั้นคืออะไร โครงสร้างเป็นอย่างไร

ฐานเทคโนโลยีชีวภาพ  น้องๆ จะได้เรียนรู้ แล็บ Agriculture เป็นการปลูกพืชในอาคารระบบเกษตรอัจฉริยะ

ฐานพฤษศาสตร์ ได้ส่องกล้องจุลทรรศน์ดูโครงสร้างของพืชต่างๆ ส่วนพอบ่ายๆ เราก็เดินทางไปศาลายากัน พักที่นี่ 2 คืนเต็มๆ ค่ายนี้ไม่ใช่ค่ายวิชาการอย่างเดียวนะ เพราะพอตกเย็นก็มีสันทนาการแบบจัดเต็มเลยทีเดียว


วันที่ 2

เป็นวันที่น้องๆ จะได้พบกับกิจกรรมเดินตามฐานที่ศาลายากันบ้าง เป็นกิจกรรมที่ได้รับทั้งความรู้และความสนุกมากมาย พอบ่ายๆ ก็มีแสดงละครกลุ่ม บอกได้เลยว่าน้องๆ คิดการแสดงกันแบบสร้างสรรค์กันสุดๆ


วันที่ 3

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ของค่ายนี้ นั้นคือการแนะแนวการศึกษาจากรุ่นพี่ทุกช่วงวัย ซึ่งก็เป็นศิษย์เก่าคณะวิทย์ มหิดล ของเรานั่นเอง พี่ๆ ก็จะพูดแนะแนวการเรียนบ้าง บอกเล่าประสบการณ์ในช่วงเรียนจบว่าพี่ๆ เค้าเลือกไปทำงานอะไรกันบ้าง ทั้งคนที่เลือกทำงานตรงสายและเปลี่ยนสายการทำงาน ก็จะเป็นช่วงที่ได้รับความรู้และมุมมองความคิดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์มากมายและกิจกรรมสุดท้ายคือพิธีบายศรีครับ


ในฐานะประธานค่าย ประทับใจอะไรในค่ายมากที่สุด

ประทับใจตอนประชุมกับเพื่อนๆ รู้สึกว่าทุกคนดูตั้งใจและให้ความร่วมมือเพื่อให้ค่ายออกมาดีไม่ว่าจะทั้งกิจกรรมวนฐานที่มีการปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะ เพื่อให้เหมาะสมกับน้องๆ มัธยม ให้น้องได้สนุกกับกิจกรรมและไม่เบื่อครับ


หวังว่าน้องๆ จะได้อะไรไปจากค่ายนี้บ้าง

การทำค่ายครั้งนี้ก็เหมือนเป็นการโปรโมทคณะไปในตัว เราเลยต้องการแสดงออกมาให้น้องได้เห็นถึงความเป็นเด็กคณะวิทย์ มหิดลให้มากที่สุด ในรูปของทั้งความรู้และความสนุกสนาน จึงหวังว่าการมาค่ายครั้งนี้ น้องๆ จะรู้จักคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และรู้จักสาขาต่างๆในคณะมากขึ้น และสามารถนำความรู้แต่ละสาขาไปประกอบอาชีพในอนาคต เพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกศึกษาต่อได้ด้วยครับ


ชวนน้องมาเข้าค่ายนี้ครั้งต่อไปกันหน่อยจ้า

ถ้าน้องๆยังลังเลว่าคณะวิทยาศาสตร์ มหิดลของเรานั้นเรียนอะไรบ้าง เรียนหนักมั้ย จบไปทำงานไรได้บ้าง อาชีพมั่นคงไหม สภาพแวดล้อมของมหิดลทั้งวิทยาเขตศาลายาและพญาไทเป็นยังไง ค่ายนี้คือคำตอบของคำถามทั้งหมด พี่ๆ คณะวิทย์ มหิดล ทุกคนพร้อมต้อนรับน้องๆ และยินดีที่ได้รู้จักน้องๆ ทุกคน หวังว่าเราจะได้มาทำกิจกรรมร่วมกันและได้รู้จักกันนะครับ


รู้จักค่าย ผ่านมุมมองพี่ค่าย “พี่ปุญ”

ค่าย คณะวิทยฯ มหิดล
“พี่ปุญ” ปุญญิศา ศรีเมือง ชั้นปี2 คณะวิทยาศาสตร์ มหิดล

อะไรที่ทำให้ “พี่ปุญ” ตัดสินใจมาเรียนคณะนี้

พี่คิดว่าในประเทศนี้ยังขาดบุคลากรที่จบจากคณะนี้อยู่จำนวนมาก และนอกจากนี้ตัวเราเองก็ชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ การคิดวิเคราะห์ต่างๆ และ ชอบการคิดอย่างเป็นระบบอีกด้วย


ในคณะมีกิจกรรมอะไรให้เข้าร่วมบ้างไหม

คณะของเรามีกิจกรรมเพื่อให้ได้รู้จักคณะอื่นมากขึ้ อย่างเช่น อะตอมเกม หรือ เฟรชชี่เกม ที่จะให้นักศึกษาคณะวิทย์ได้ร่วมแข่งกีฬากับคณะอื่นๆ ซึ่งจะคล้ายๆกีฬาสีของน้องมัธยมเลย และยังมีกิจกรรมรับน้อง ค่าย และอื่นๆ อีกนะ น้องๆ ที่ชอบทำกิจกรรมไม่ต้องห่วงเลย


ในค่าย MAS Camp ทำตำแหน่งอะไร รับผิดชอบอะไรบ้าง

ทำหน้าที่เป็นพี่ฐาน รับผิดชอบฐานที่เราจัดขึ้นมา คอยเชียร์อัพน้องๆ ระหว่างการร่วมกิจกรรม และคอยดูแลความปลอดภัยของน้อง หากมีอะไรที่ผิดพลาดหรือน้องได้รับบาดเจ็บเราก็จะแจ้งไปยังพี่ที่คอยดูแลเรื่องนี้อีกทีค่ะ


กิจกรรมอะไรที่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของค่ายนี้เลย

กิจกรรมแสดงละครในช่วงกลางคืน เพราะเป็นกิจกรรมที่ทุกคนได้อยู่ร่วมพร้อมๆ กัน น้องๆจะได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและได้คุยกันมากขึ้น รวมถึงได้รับความสนุกสนานและข้อคิดจากกิจกรรม ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ละลายพฤติกรรมน้องให้น้องได้สนิทกับเพื่อนๆ พี่ๆในกลุ่มอีกด้วย


มีอะไรอยากบอกน้องๆ ที่กำลังค้นหาตัวเองไหม

อยากบอกน้องๆ ว่าอย่ากดดันตัวเองจนเกินไป ให้ลองหาตัวเองให้เจอว่าชอบอะไร สนใจอาชีพไหน ความชอบกับอาชีพไปด้วยกันไหม แล้วค่อยๆ หาคณะที่อยากเข้า แล้วก็อย่าใส่ใจกับคำพูดของคนรอบข้างมากเกินไป เลือกสิ่งที่ใจตัวเองต้องการดีกว่าค่ะ


ในฐานะพี่ค่าย ประทับใจอะไรในค่ายมากที่สุด

ส่วนตัวเราประทับใจการร่วมมือกันเพื่อจัดค่ายนี้ พี่ๆ ทุกคนพยายามกันอย่างมากเพื่อที่จะทำให้ค่ายนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด แล้วเราก็ประทับใจความน่ารักของน้องๆ ทุกคนที่ให้ความร่วมมือกับพี่ๆ อย่างดี รวมๆ แล้วเป็นค่ายที่ดีที่สุดที่เราเคยเข้าร่วมเลยค่ะ

อย่าใส่ใจกับคำพูดของคนรอบข้างมากเกินไป เลือกสิ่งที่ใจตัวเองต้องการดีกว่าค่ะ

คิดว่า “ค่าย” สำคัญยังไง

ค่ายทำให้เราได้รู้จักกับการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ทำให้เราได้และเปลี่ยนความคิดเห็นและการวางแผนต่างๆ ค่ายนี้ก็ทำให้เราได้ให้ความรู้กับน้องๆ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการให้น้องๆ รู้จักตัวเองมากขึ้นและรู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร


ฝากชวนน้องมาเข้าค่ายนี้ครั้งต่อไปหน่อยจ้า

พี่ก็อยากจะชวนให้น้องๆที่ย้งไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรหรือสนใจทางด้านไหนลองมาค่ายนี้ เพราะเราจะให้ทั้งความรู้เกี่ยวกับคณะและมีกิจกรรมต่างๆ ซึ่งอาจจะช่วยให้น้องๆ รู้จักตัวเองมากขึ้นว่าชอบอะไร เพื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยต่อไปนะคะ


มาฟังเสียงจากน้องค่ายกันบ้าง

“น้องตะวัน” นายจิตติชัย บุญเกิด และ “น้องฟลุ๊ค” นายกิตติพศ  จันทชีวกุล ชั้นม.5 สายการเรียน วิทย์-คณิต โรงเรียนวัดราชบพิธ

รู้จักค่าย MAS Camp 31st มหิดลนี้ได้ยังไง

น้องตะวัน : ตอนแรกมีรุ่นพี่ที่ทำค่ายมาแนะนำที่โรงเรียน และผมเห็นจาก CAMPHUB ว่าจะมีกิจกรรมค่าย MAS Camp มหิดล ด้วย เลยสมัครเข้าร่วมกิจกรรมครับ

น้องฟลุ๊ค : ของผมเหมือนตะวันเลยครับ


อะไรที่ทำให้น้องๆ อยากเข้าค่ายนี้

น้องตะวัน : ผมมีความสนใจในด้านวิทยาศาสตร์เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อมีการจัดค่ายนี้ทำให้ผมอยากได้ประสบการณ์ ความสนุก ความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ คำแนะนำจากรุ่นพี่ครับ

น้องฟลุ๊ค : ผมชอบวิชาเคมี เลยลังเลระหว่างคณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเคมี เลยพยายามหาค่ายที่เกี่ยวกับทั้งสองคณะ เพื่อจะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น เเล้วไปเจอค่ายนี้มา เลยไม่ลังเลที่จะสมัครเลยครับ


สิ่งที่ได้เรียนรู้จากค่ายตลอด 3 วัน 

น้องตะวัน : เราสามารถตอบความสงสัยของเราได้เองเลยว่า คณะนี้ใช่สำหรับเราจริงๆ ไหม แถมยังได้รู้ว่า จริงๆ แล้วเราจบมาไม่ได้เป็นแค่นักวิจัยอย่างเดียว แต่เป็นได้มากกว่าที่หลายๆ คนคิด ซึ่งพี่ๆในค่ายยังคอยให้คำแนะนำ ด้านการศึกษาต่อในสายนี้ครับ

น้องฟลุ๊ค : มี 3 อย่างที่ผมได้เรียนรู้จากค่ายนี้คือ ข้องแรกคณะวิทย์เรียนหนักมากกก ส่วนข้อสอง คณะวิทย์มีสาขาเยอะมากกก และข้อสุดท้าย ทำให้ผมได้รู้ว่าระหว่างวิศวะเคมีกับวิทย์เคมี คณะที่เน้นเคมีมากกว่าคือคณะวิทย์เคมีนั้นเอง

เราสามารถตอบความสงสัยของเราได้เองเลยว่า คณะนี้ใช่สำหรับเราจริงๆ ไหม


กิจกรรมในค่าย ที่เราประทับใจที่สุด

น้องตะวัน : คงเป็นกิจกรรมตามฐานในแต่ละฐานจะมีความเป็นเอกลักษณ์แตกต่างไปเช่น ฐานพฤกษศาสตร์ที่ให้ทายพันธุ์ของพืช ฐานคณิต เราต้องคิดให้ไว มีสติตลอดเวลา ประทับใจในกิจกรรมนี้เพราะเป็นกิจกรรมที่ผสมระหว่างวิชาการกับสันทนาการ ทำให้เรารู้สึกสนุกพร้อมทั้งได้รับความรู้ไปด้วย

น้องฟลุ๊ค : ผมชอบเหมือนตะวันเลย พวกกิจกรรมฐานที่พาไปดูแต่ละสาขา


นอกเหนือจากกิจกรรมแล้ว มีอะไรบ้างที่เราชอบเป็นพิเศษบ้าง

น้องตะวัน : ด้วยค่ายจัดที่มหิดล ศาลายา และเป็นแบบค้างคืน ทางค่ายมีการจัดสถานที่พักเป็นหอในมหาวิทยาลัย ทำให้เราซึมซับเสมือนว่าเราเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยนี้จริงๆ แถมมีโอกาสได้เห็น มหิดลในมุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลานมหิดล ศูนย์การเรียนรู้มหิดล เป็นที่ที่ผมทำกิจกรรมสันทนาการ และกิจกรรมอีกมากมาย พี่ๆ ที่จัดกิจกรรมก็เฟรนลี่มาก คุยได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการเรียนต่อ และคอยถามตลอด คอยดูแล โดยเฉพาะตอนที่รวมตัวกันในตอนเช้าเพื่อกินข้าว รุ่นพี่จะมีกระดาษลังคนละอันคอยพัดให้เราไม่ร้อน น่ารักมากๆ ครับ

น้องฟลุ๊ค : พี่ใจดีมากกก เเละผมรู้สึกว่าพวกพี่ๆคณะวิทย์ มหิดลใส่ใจกับเด็กที่มาเข้าค่ายมาก ทั้งเตรียมเเทบทุกอย่าง ทั้งคอยถามว่า เอานำ้ไหม เพิ่มข้าวไหม เป็นห่วงพวกเราตลอด ประทับใจมาก


พอจบค่ายไปแล้ว เราคิดว่า จะเลือกเรียนต่อในเส้นทางนี้มั้ย

น้องตะวัน : เรียนแน่นอนครับ แล้วด้วยในเส้นทางนี้สามารถต่อยอดไปได้อีกมากมาย ทำให้เราเลือกได้ว่าเราอยากจะเป็นอะไรครับ

น้องฟลุ๊ค : จริงๆ ก็บังลังเลอยู่ ระหว่างคณะวิศวะกับคณะวิทย์ เเต่ค่อนไปทางวิศวะเคมีมากกว่า เพราะการมาค่ายทำให้ผมรู้ว่า คณะวิทย์เคมีจะเน้นเคมีมากเกินไปหน่อย อาจจะยากเกินไป ในขณะที่วิศวะเคมีไม่ได้เน้นเคมีมากเกิน และเน้นไปทางวิศวะ น่าจะเหมาะกับผมมากกว่า


คิดว่าค่ายสำคัญกับเรายังไง ในฐานะนักเรียนม.ปลาย

น้องตะวัน : เป็นการแนะนำการศึกษาที่เราสนใจพร้อมกับเรียนรู้สังคมการใช้ชีวิตเป็นยังไง ทั้งยังมีกิจกรรมอีกมากมายครับ

น้องฟลุ๊ค : ทำให้เรารู้ตัวเองมากขึ้นว่าจะเรียนไปทางไหน จะได้รู้ตัวเเต่เนิ่นๆ ไม่เสียเวลาครับ

ทำให้เรารู้ตัวเองมากขึ้นว่าจะเรียนไปทางไหน จะได้รู้ตัวเเต่เนิ่นๆ ไม่เสียเวลาครับ


สุดท้ายแล้วเชิญชวนน้องๆ ม.ปลาย มาเข้าค่าย MAS Camp รุ่นต่อไปกันหน่อย

น้องตะวัน : สำหรับเพื่อนๆ น้องๆ ที่คิดว่าคณะนี้เรียนยาก ในความเป็นจริง มันไม่ยากอย่างที่คิด อยากให้มาจริงๆ คณะนี้สามารถเรียนในสายที่เราสนใจได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านคอมพิวเตอร์ พฤกษศาสตร์ และอีกมากมาย เมื่อมาค่ายนี้ทำให้เรารู้จริงๆว่าคณะนี้เเหละมันตอบโจทย์ในใจเราจริงๆ ยังมีรุ่นพี่คอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ แล้วก็ได้รับความทรงจำและประสบการณ์ดีๆ ที่เราไม่ลืมจริงๆ แล้วมาสมัครกันเยอะๆ นะครับ

น้องฟลุ๊ค : ถ้าใครชอบวิทยาศาสตร์ ไม่มา ถือว่าอย่างพลาด เพราะจะทำให้เราได้รู้จักคณะวิทย์มากขึ้น ถ้ามาเเล้วไม่ถูกใจคณะวิทย์จะได้มีเวลาไปคิดว่าเราถนัดคณะอะไรมากกว่า เเต่ถ้ามาเเล้วถูกใจจะได้รู้เป้าหมายของตัวเองมากขึ้นเเละโฟกัสคณะวิทย์ตั้งเเต่เนิ่นๆ


เป็นยังไงกันบ้าง เป็นอีกหนึ่งค่ายคุณภาพที่น้องๆ ที่สนใจในวิทยาศาสตร์ หรือกำลังลังเลว่าเราจะเรียนคณะอะไรดี ห้ามพลาด! เพื่อที่ว่าน้องๆ จะได้ตัดสินใจเข้ามหาวิยาลัยได้ง่ายมากขึ้นนะ และอย่าลืมติดตาม เพจ MAS Camp by Science Mahidol University และ CAMPHUB ด้วยล่ะ  ค่าย MAS Camp ครั้งที่ 32 มาเมื่อไหร่ จะได้ไม่พลาดกันนะ สำหรับวันนี้ “พี่จั๊มพ์” ขอลาไปก่อน เจอกันใหม่ในแคมป์รีวิวครั้งหน้า สำหรับวันนี้บ๊าย บายยย

ติดตามแคมป์ฮับไม่พลาดทุกข่าวค่าย

อย่าลืมแอดไลน์ @CAMPHUB

Line CampHUB


เขียนโดย : พี่จั๊มพ์ แคมป์ฮับ
ขอขอบคุณรูปภาพ : SCMU Photo

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

jump (พี่จั๊มพ์)