กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB review

รีวิวค่ายทำเว็บ JWC12 เขียนโค้ด คอนเทนต์ ดีไซน์ การตลาด มาครบ!

สวัสดีค่าน้องๆ ห่างหายกันไปนาน วันนี้ “รีวิวค่าย” กลับมาอีกครั้ง โดยคราวนี้พี่ซอขอพามาพบกับค่าย Junior Webmaster Camp หรือ JWC12 ที่หลังจากมีสถานการณ์ COVID-19 ก็เว้นการจัดค่ายไปถึงสองปี! แต่ก็ยังมีน้องๆ ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก บอกเลยว่าน้องๆ ปีนี้นั้นพกความสามารถ เตรียมตัวกันมาดีจริงๆ บางคนนั้นรอตั้งแต่ม.4 กว่าจะได้สมัครจริงก็ม.6 แล้ว พี่ๆ ได้ทำการคัดกันอย่างเข้มข้นจากใบสมัครที่ส่งมา 781 คนจนเหลือตัวจริงเพียง 48 คนเท่านั้น! แถมยังเป็นปีแรกที่มีการสัมภาษณ์อีกด้วย หากใครอยากรู้จักว่าค่าย JWC คือค่ายอะไร? ทำอะไรกันบ้าง? ไปอ่านกันเลย!


อย่าลืมแอดไลน์ @CAMPHUB

“ค่ายJWC” คือค่ายอะไร?

Junior Webmaster Camp (JWC) หรือที่ชาวค่ายมากจะเรียกกันสั้นๆ ว่า ค่ายเจ เป็นค่ายทำเว็บไซต์สำหรับนักเรียนชั้นม.ปลายหรือเทียบเท่า ที่มีความฝันและสนใจในวงการดิจิทัล จัดโดยพี่ๆ ชมรมเยาวชนผู้ดูแลเว็บไทยที่ผ่านค่าย YWC พร้อมด้วยพี่ซีเนียร์จากค่าย JWC รุ่นก่อนๆ ซึ่งในปีนี้นั้นจัดขึ้นในธีม Make Your Site, Write Your Future เปิดรับน้องๆ ทั้งหมด 4 สาขาได้แก่

  • Web Content นักเล่าเรื่อง นำเสนอเรื่องราวและข้อมูลให้น่าสนใจและเป็นที่จดจำ
  • Web Programming นักเขียนโค้ด หลังบ้านเว็บไซต์สุดสตรอง
  • Web Marketing นักวางแผน คิดกลยุทธ์การตลาดเพื่อหาเงินให้กับเว็บ
  • Web Design นักออกแบบ สร้างสรรค์เว็บให้สวยด้วยมือน้อง

รู้จักค่ายเจกันคร่าวๆ แล้วมาฟังรีวิวค่ายจากเพื่อนๆ ที่เพิ่งผ่านค่ายมากันเถอะว่าค่ายนี้มันเป็นยังไงบ้าง รวมถึงเบื้องหลังการจัดค่ายจากพี่บ้านและประธานค่าย (ที่ครั้งหนึ่งก็เคยเป็นน้องค่าย JWC/YWC) ไปทำความรู้จักกับพวกเขากัน!


น้องค่าย JWC12

น้องน้ำขิง (ซ้าย)
น้องครูส

สวัสดีค่าน้องๆ แนะนำตัวกันหน่อย

น้ำขิง: น้ำขิง กัณฐิกา เรียนอยู่ ม.6 รร.ปากช่อง นครราชสีมา สาขา Programming ค่า

ครูส: ครูส ภูเบศ ชั้น ม.6 รร.เบญจมราชูทิศ ราชบุรี สาขา Design ครับ


รู้ไหมปีนี้เป็นปีแรกที่คัดเลือกด้วยการสัมภาษณ์เลย สัมภาษณ์เป็นไงบ้างคะ

ครูส: ตื่นเต้นมากครับ ว่าจะหาอะไรมาให้พี่ๆ ดู เพราะพี่เขาบอกไว้ว่าให้เตรียมพอร์ตมาด้วย แล้วผลงานดีไซน์คือมีแต่ภาพมีมเพื่อนที่เคยทำ เลยเอามีมเพื่อนให้พี่เขาดูเป็นพอร์ตเลยครับ พอเข้าไปสัมจริงๆ แล้วพี่เขาเป็นกันเองแล้วคุยกันสบายมากๆ จนหมดเวลาสัมไม่รู้ตัวเลย

น้ำขิง: วันนั้นหนูตื่นเต้น ลนมาก แต่สุดท้ายคือคุยกันสนุกมาก หนูเข้าห้องผิดคิวด้วย ไปเจอเพื่อนอีกคนเขากำลังสัมภาษณ์อยู่ ความบังเอิญคือเพื่อนคนนั้นได้มาอยู่ทีมเดียวกันเป็น programming เหมือนกันด้วยค่ะ


พอได้เข้าค่ายจริง เหมือนกับที่คาดหวังไว้ไหม

ครูส: ทีแรกคิดว่าจะมานั่งเรียน 3 วัน 2 คืน สรุปเรียนแค่วันแรกวันเดียวแล้วปล่อยทำงานเลย เน้นเวิร์คชอปกันหนักหน่วงจัดเต็มมาก

น้ำขิง: ไม่เหมือนที่คิดเลยค่ะ คิดไว้ว่าคงมีเนื้อหาวิชาการค่อนข้างหนัก แต่เซอร์ไพรส์เลยเพราะค่ายบันเทิงมากๆๆ ไม่คิดว่านี่คือค่ายวิชาการจริงๆ


กลุ่มเราทำเว็บอะไรกัน แชร์ให้เพื่อนๆ หน่อย

ครูส: เป็นเว็บไซต์ที่ทำแพลนเนอร์ให้กับคนที่รู้แล้วว่าตัวเองอยากเรียนอะไร แต่ยังไม่รู้จะวางแผนอ่านหนังสือยังไง
ต่อให้มีเวลาเตรียมสอบน้อยแค่ไหนก็สามารถจัดตารางการอ่านให้ได้อย่างรวดเร็ว

น้ำขิง: ค่ายนี้เป็นงานแรกที่หนูได้เขียนโปรแกรมแบบของจริงเลยค่ะ ตั้งใจทำไว้เยอะมาก แต่ตอนท้ายดันเกิด bug กดปฏิทินได้แค่วันเดียวค่ะ เสียดายมากกก บอกเลยค่ะว่าค่ายนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น


เราประทับใจบรรยากาศช่วงไหนเป็นพิเศษ?

น้ำขิง: วันแรกที่ทุกคนเจอกันค่ะ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะอยู่กลุ่มเดียวกัน พอมานั่งกินข้าวเราก็เริ่มคุยกันเลย แล้วก็มานั่งจำวันเกิดกัน แปลกมากเลยค่ะเราจำวันเกิดกันได้ก่อนชื่ออีก เหมือนได้ละลายพฤติกรรมไปพร้อมกัน เพราะว่าทุกคนที่มาค่ายคือพร้อมจะคุยกัน เข้าหากันอยู่แล้ว บรรยากาศตรงนี้ทำให้รู้สึกว่าอยากกลับมาทำค่ายต่อ ปีหน้าน่าจะตรงช่วงปิดเทอมเข้ามหาลัยพอดีเลยด้วย อยากกลับมาเป็นซีเนียร์ค่ายค่ะ

ครูส: สนุกทั้งค่ายฮะ แต่ที่สุดน่าจะเป็นคืนวันที่ 2 ครับ ตั้งแต่ช่วงกิจกรรม All Camp คือคอนเทนต์เต็มไปหมดเลย ทั้งตัวเกม สันทนาการ คิดงานกับเพื่อน มีพี่ๆ มาเดินห้องให้คำปรึกษา ไปจนถึงเช้าอีกวันที่ผมกับเพื่อนหลับตื่นสายกัน 3 คน ผมอยากบอกคนที่จะเข้าปีต่อๆ ไปว่า ถ้าคิดจะเข้า เข้าเถอะครับ มันมีทุกอย่างจริงๆ เปิดประสบการณ์มาก ตั้งแต่กลับมาผมก็รู้สึกว่าตีหนึ่งไม่ดึกอีกต่อไป


พี่สมิง: ประธานค่าย JWC12

พี่สมิง (ขวา)

สวัสดีค่าประธานค่าย JWC12 ของเราา แนะนำตัวสั้นๆ หน่อยค่าา

พี่สมิง: ชื่อสมิงค่ะ เป็นประธานค่าย JWC12 เราเคยอยู่ JWC6 สาขาคอนเทนต์ แล้วก็ YWC18 สาขาดีไซน์ค่า


อะไรทำให้กลับมาจัดค่าย?

พี่สมิง: เรามีทุกวันนี้ได้เพราะค่าย JWC สำหรับบางคนมันอาจจะฟังดูเกินจริงไปนิดนึง แต่เรามองว่าค่ายนี้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญของเราที่ทำให้เราเติบโตมาเป็นคนแบบนี้ ค่ายนี้มันทำให้เราได้เข้ามาค้นหาตัวเอง ได้เข้ามาลองทำอะไรใหม่ๆ ตอนที่จบค่าย JWC6 มาก็เคยกลับไปทำค่าย JWC7 กับ JWC8 ค่ะ และล่าสุดหลังจบ YWC18 ก็กลับมาทำค่ายนี้

ในวันนั้นที่เราเข้ามาเป็นน้องค่าย เราเป็นแค่เด็กม.4 ขึ้นม.5 มันได้ลองทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำในห้องเรียนมาก่อน ได้เจอเพื่อนที่มีความสนใจเหมือนกัน เจอคนเก่งๆ มากมาย พอจบค่ายเราก็ได้กลับมาจัดค่าย ได้คลุกคลีกับสังคมตรงนี้เหมือนว่า คนตรงนี้สนับสนุนเราตลอด มันทำให้เราเห็นภาพอนาคตของตัวเองชัดขึ้น จนทำให้เราเลือกเส้นทางชีวิตที่เราอยากจะให้เป็นได้อย่างมั่นใจ


ความรู้สึกตอนเข้าค่ายกับตอนมาจัดค่ายต่างกันยังไงบ้าง?

พี่สมิง: ตอนเป็นน้องค่ายเราก็เห็นแค่สิ่งที่มันอยู่หน้างาน เกิดขึ้น ณ ตรงนั้น จดจ่อกับแต่ละ session ที่พี่เขานำเสนอมาให้เรา แต่ว่าพอเป็นพี่ค่าย เราต้องถอยออกมาหลายๆ ก้าว เพื่อจะได้เห็นภาพรวมทั้งหมด ต้องคิดเยอะมาก สนใจแค่งานตัวเองไม่ได้ เราต้องต้องประสานงานกับทุกฝ่าย และต้องคอนเซิร์นประเด็นอ่อนไหวด้วย


ปีนี้เป็นปีแรกที่มีการสัมภาษณ์ น้องๆ เป็นยังไงกันบ้าง?

พี่สมิง: สำหรับน้องสาขาดีไซน์ที่เราสัมภาษณ์ น้องๆ เป็นเด็กม.ปลายอาจจะยังไม่เคยมีประสบการณ์ เห็นเลยว่าน้องมีความตื่นเต้น แต่สิ่งที่เห็นอีกอย่างคือประกายในตาน้องๆ แต่ละคน ทุกคนตั้งใจอยากเข้าค่ายนี้มาก บางคนเตรียมตัวมาดีมาก เตรียมการนำเสนอมาพร้อม ซึ่งเหนือความคาดหมายไปมากๆ เลย และด้วยความที่น้องๆ แต่ละคนเก่งกันมากๆ อยู่แล้วก็รู้สึกทึ่งว่าเด็กม.ปลายสมัยนี้พัฒนากันไปถึงไหนแล้ว น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ


มีอะไรฝากถึงน้องๆ JWC12 ไหม?

พี่สมิง: สังคม JWC มันรายล้อมไปด้วยคนเก่งมากมายเลย การที่เรายังอยู่ในวงสังคมนี้ มันทำให้เรามีแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ทุกคนรักษา connection กันไว้ และทุกๆ ปีที่เราจัดค่ายถ้ามีโอกาสก็อยากให้กลับมาจอยค่ายกันอีกครั้ง โดยส่วนตัวแล้วที่เรากลับมาจัด เราคิดว่าตอนเราเป็นน้องเราเคยได้รับอะไรมา ก็อยากส่งต่อสิ่งแบบนั้นต่อไป อยากให้น้องรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน


อยากฝากอะไรสำหรับน้องๆ ที่สนใจจะเข้าในปีต่อไปไหมคะ?

พี่สมิง: ค่าย JWC ในมองมุมนึงมันก็เป็นค่ายวิชาการ ของคนมีความสนใจด้านเว็บไซต์ด้านดิจิทัล เราว่าถ้าน้องๆ สนใจอยากจะอยู่รอดในโลกดิจิทัล มันเป็นโอกาสที่ดีเลยนะที่น้องจะได้เข้ามาสัมผัสค่ายนี้สักครั้งนึง เพราะนอกจากด้านวิชาการทั้ง 4 สาขาของค่ายแล้ว น้องก็จะได้มาฝึก hard skill ตรงนี้แล้วก็จะได้มาฝึก soft skill ต่างๆ ซึ่งอันนี้เราคิดว่าไม่ได้เจอได้ทั่วไปในโรงเรียน น้องจะได้ทำงานกับคนที่มีความหลากหลาย ได้ลองขึ้นไปนำเสนองานต่อหน้าคนเป็นสิบๆ คน ต้องลองสัมผัสประสบการณ์จริงในค่ายนี้สักครั้งในชีวิต

ส่วนคนที่สนใจสมัครในปีหน้าเราอยากฝากว่า อย่ามองว่าอีกตั้งนานกว่าจะรับสมัคร อยากให้น้องๆ ค้นคว้าดูว่าตัวเองสนใจสาขาไหนจะได้เตรียมตัวฝึกสกิลรอ เพื่อที่ถึงเวลา JWC 13เปิดรับสมัคร น้องจะได้เป็นคนที่พร้อมที่สุดแล้วมาเจอกันในค่ายนะคะ


พี่นนท์: พี่บ้าน JWC12

พี่นนท์ (ซ้าย)

แนะนำตัวสั้นๆ หน่อยค่าา

พี่นนท์: ชื่อนนท์ กาศิพัฒณ์ รุ่น YWC17 เราเคยเป็นพี่บ้านค่าย YWC18 แล้วก็กลับมาจัดค่าย JWC12 อีกครั้ง


อะไรทำให้กลับมาจัดค่ายนี้?

พี่นนท์: ด้วยความที่ช่วงนี้เราทำงานค่อนข้างหนักและเยอะ บางครั้งมันทำให้รู้สึกโหยหาชีวิตัยรุ่น ตอนนั้นค่ายเขาเปิดหาพี่บ้านพอดีเลยตัดสินใจกลับมาทำค่าย อีกเหตุผลหนึ่งที่มาทำคือเราเคยประทับใจกับค่ายมาก่อนตอนเข้า YWC17 ค่ายนี้ทำให้เราเข้าไปในคอมมิวนิตีที่เราหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว และเราก็เป็นคนชอบทำงานอาสาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยก็เลยสมัครเข้ามาทำเลย


ความรู้สึกตอนเข้าค่ายกับตอนมาจัดค่ายต่างกันยังไงบ้าง?

พี่นนท์: มันเห็นอะไรมากขึ้นว่าค่ายมีโครงสร้างยังไง ทีแรกตอนเป็นน้องค่ายเราก็รู้แค่ของฝ่ายตัวเอง แต่พอเป็นพี่บ้าน มันต้องไปเชื่อมโยงกับฝ่ายอื่นๆ ต้องรู้เรื่องสาขาอื่นๆ ว่าเขาทำอะไรกันยังไงบ้าง เราได้เข้าใจความรู้สึกว่าที่พี่แต่ละคนใกล้ชิดกับน้อง ดูแลน้องมันเป็นงี้นี่เอง


แชร์บรรยากาศประจับใจกับน้องๆ หน่อยค่า

น้องบางคนก็คือ ทำให้เรารู้สึกเหมือนเห็นตัวเองตอนมาเข้าค่ายว่าเออตอนนั้นตัวเองเป็นคนยังงี้ พอมาเจอน้องก็พอรู้ว่าต้องดูแลน้องๆ แต่ละคนยังไง แล้วปีนี้มันเป็นค่ายออนไซต์ด้วยมันยิ่งทำให้สนิทกัน ใกล้ชิดกว่า อย่างตอนได้ไปกินข้าวกับน้องแล้วเห็นทุกคนสนิทกัน พุดคุยแชร์เรื่องชีวิตนู่นนี่กันหรือมาปรึกษาเรื่องเรียนกับเรา มันผูกพันกันมากขึ้น มันดีมากๆ เลย


มีอะไรฝากถึงน้องๆ JWC12 ไหม?

พี่นนท์: สำหรับคนที่เข้าค่ายมาแล้ว ก็มีทั้งคนที่ผิดหวังและสมหวังเพราะมันก็มีการแข่งขัน แต่ยังไงก็ตาม คนที่เข้ามาค่ายทุกคนต้องมีจุดประสงค์บางอย่างอยู่แล้ว น้องจะได้เห็น ได้เรียนและได้โรลโมเดลในแง่ต่างๆ ทั้งด้านการเรียน การใช้ชีวิต การทำงาน


อยากฝากอะไรสำหรับน้องๆ ที่สนใจจะเข้าในปีต่อไปไหมคะ

พี่นนท์: เราค่อนข้างอยากให้มาลอง การมีวิสัยทัศน์ในการใช้ชีวิตมันหาง่ายนะในปัจจุบัน แต่ประสบการณ์ที่ได้เจอกับคนจริงๆ ที่สามารถพูดคุยถามได้จริงๆ มันไม่ได้หาง่ายขนาดนั้น เพราะเดี๋ยวนี้ทุกคนไม่ connect กันเหมือนเดิม การเข้ามาค่ายอาจจะไม่ได้สกิลหรือได้ก็ได้ แต่ที่น้องจะได้แน่นอนคือได้เรียนรู้ตัวเองอีกระดับนึงว่าจริงๆ แล้วชอบอะไร ชอบทำอะไร และผิดพลาดอะไร ค่ายนี้เป็นเหมือน sand box อันนึงที่ให้ได้ fell fast, learn fast ให้ล้มละลุกได้เสมอ


ส่งท้าย

ก็จบกันไปแล้วกับการรีวิวค่ายทั้งจากน้องๆ ที่เพิ่งผ่านค่าย JWC12 มา และในมุมของพี่ๆ ที่จัดค่าย ใครที่อยากรู้จักค่ายมากกว่านี้ ก็ต้องมาลองสัมผัสค่ายของจริงแล้วว แอบกระวิบว่าค่ายนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย! ขอแค่น้องๆ มีใจและมีไฟ ก็เข้ามาสมัครกันได้เลย! คนที่กำลังเตรียมตัวสำหรับค่ายปีต่อไปก็ขอเป็นกำลังใจเล็กๆ ให้น้องในการเตรียมตัวสมัครค่ายนะค้าา ส่วนน้องๆ ที่เคยมาเข้าค่าย JWC แล้วคิดถึงบรรยากาศค่ายสนุกๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้แบบนี้ ก็กลับมาจอยกันได้น้า ครอบครัว JWC รอต้อนรับทุกคนเสมอเลยย!


บทความโดย พี่ซอ CAMPHUB
ตรวจทานโดย พี่ฟิวส์ CAMPHUB

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน