กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB up skill with BASE Playhouse

4 วิธีจัดการเวลาง่าย ๆ ในช่วง Study Form Home

สวัสดีเดือนสิงหาคมค่า กลับมาพบกับพี่มะแม้วใน CAMPHUB Upskill by BASE Playhouse กันอีกแล้ววว เรากลับมาเจอกันครั้งนี้ น้อง ๆ ก็ยังคง Study From Home กันอยู่ แถมพออยู่บ้านนานขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนก็เจอปัญหามากขึ้นอีก เช่น

“อยู่บ้านทั้งวัน แบ่งเวลาเรียนออนไลน์ เวลาทำการบ้าน กับเวลาพักไม่ได้เลย”

“บางทีทำการบ้านอยู่ แม่เรียกไปช่วยตากผ้า จะไม่ไปตอนนี้ก็โดนบ่นอีก ทำยังไงดี”

“พอจะนั่งเฉย ๆ ก็รู้สึกผิด แบบนี้ต้องอ่านหนังสือทั้งวันมั้ยเนี่ย”


ถ้าน้อง ๆ เป็นหนึ่งในคนที่เจอปัญหาแบบนี้จะไม่ต้องตกใจ หรือรู้สึกเป็นกังวลไปน้า นี่เป็นปัญหาปกติ มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกคนในช่วงนี้ (บางทีพี่ก็รู้สึกเหมือนกัน) เป็นเพราะว่าเราอยู่ที่สภาวะแวดล้อมเดิมนาน ๆ ไม่มีโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศ ไม่ได้แบ่งกิจกรรมตามสถานที่ ปกติเราเรียนหนังสือที่โรงเรียน พอมาเรียนที่บ้าน การบ้านเยอะขึ้น ก็อาจกินเวลาพักผ่อนของเราไปแบบไม่รู้ตัว 

วันนี้พี่มะแม้วเลยนำทักษะสำคัญที่จะใช้แก้ปัญหาเหล่านี้มาฝากน้อง ๆ ทุกคน นั่นคือทักษะ Time management (การจัดการเวลา) และ Prioritization (การจัดลำดับความสำคัญ) เพื่อประเมินเวลากับสิ่งที่ต้องทำ น้อง ๆ จะได้ทำทุกอย่างได้ครบตามที่ตั้งใจ แถมยังมีเวลาพักผ่อนด้วย!

และนี่ก็คือ 4 วิธีง่าย ๆ ในการจัดการเวลากับภาระงานต่าง ๆ สำหรับน้อง ๆ CAMPHUB โดยเฉพาะ! พออ่านจบแล้วน้อง ๆ จะทำงานได้ไวขึ้นมากเลยล่ะ

1) ตั้ง “to do list” ก่อน start

แค่ตั้งสติก่อน start น่าจะไม่พอแล้ว น้อง ๆ หลายคนอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลย แต่กลับรู้สึกว่าตัวเองมีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้นเยอะ ดังนั้นเพื่อไม่ให้หลงลืมว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็ควรเขียน to do list หรือรายการสิ่งที่ต้องทำของแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์ออกมา แล้วแปะหรือวางไว้ในบริเวณที่เห็นได้ชัด เพื่อจะได้เตือนตัวเองว่า เราทำสิ่งที่ต้องทำครบหรือยังนะ

วิธีการง่าย ๆ คือ ให้น้อง ๆ เขียนสิ่งที่ต้องทำเป็นข้อ ๆ โดยที่ยังไม่ต้องคำนึงว่าสิ่งที่จำเป็นมากน้อยแค่ไหน คิดเพียงแค่เราเขียนครบแล้วหรือยัง ถ้าน้อง ๆ เขียนออกมาได้ครบทุกอย่าง ก็จะช่วยลดความกังวลใจ และทำให้สามารถจัดการทุกอย่างได้ทันเวลา 


2) จัดลำดับความสำคัญด้วย Eisenhower Matrix

หลังจากที่เราได้ list สิ่งที่จะทำออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเรียงลำดับว่าจะทำสิ่งไหนก่อน สำหรับวิธีการจัดลำดับที่ง่ายและได้ผลสุด ๆ คือการใช้ Einsenhower Matrix เรียงลำดับความสำคัญของภาระงาน เพื่อให้เห็นว่าเราควรจะทำอะไรก่อนนั่นเองค่า

ชื่อฟังดูยาก แต่ไม่ยากเลย เพราะใจความสำคัญคือ ให้ทำสิ่งที่ “จำเป็น” และ “เร่งด่วน” ก่อน 

การทำ Einsenhower Matrix ให้เราวาด 2 แกน คือแกนแนวนอน เรียกว่า แกนเร่งด่วน (Urgent) และแกนแนวตั้ง หรือแกนจำเป็น (Important) จนกลายเป็นตาราง 4 ช่อง แล้วเลือกใส่ภารกิจของเราตามระดับของช่องนั้น ๆ ได้เลย!

สำหรับตารางช่องแรก คือ Do (จำเป็นและเร่งด่วน) เราควรวางแผนทำให้จบภายในวันนั้น หรือถ้าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลา ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน ช่องถัดมาคือ Schedule (จำเป็น แต่ไม่เร่งด่วน) เป็นสิ่งที่เราอาจยังไม่ต้องทำให้เสร็จในวันนี้ก็ได้ แต่เราต้องวางแผนสำหรับทำสิ่งนั้นในวันอื่น ๆ ส่วนอีก 2 ช่องด้านล่าง คือสิ่งที่ไม่จำเป็น สำหรับช่อง Delegate (ไม่จำเป็น แต่เร่งด่วน) ลองแจกจ่ายงานให้คนอื่นช่วยทำได้บ้าง และช่องสุดท้าย (ไม่จำเป็นและไม่เร่งด่วน) ถ้าในตอนนี้เรามีงานเยอะแล้ว ก็ไม่ต้องทำสิ่งที่อยู่ในช่องนี้จ้า


3) เอาชนะใจตัวเอง และลงมือทำ

หลังจากจัดลำดับความสำคัญของทุก ๆ งานเสร็จ ก็มาถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุดแล้ว นั่นคือการเอาชนะใจตนเอง แล้วลงมือทำตามแผนที่วางไว้ให้ได้ เพราะถ้าเราจัดตารางอย่างดี แต่เราไม่ลงมือทำ เท่ากับแผนที่วางไว้ก็ไม่มีความหมายอะไรเลย 

การเอาชนะใจตนเองได้ ทำให้เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ สำเร็จได้อย่างเป็นขั้นตอน มีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความตึงเครียดจากการมีภาระงานล้นมือ และเราก็จะมีเวลาทำสิ่งที่ตัวเองชอบเพิ่มขึ้นอีกด้วย และเมื่อทำตามแพลนของตัวเองเสร็จแล้ว ก็อยากให้เราทำ checkbox หรือขีดฆ่า task นั้นเมื่อทำเสร็จแล้ว และให้รางวัลตัวเองแบบเบา ๆ เป็นกำลังใจสำหรับวันต่อไปด้วยน้า


4) แบ่งเวลาเรียน และพักผ่อน ให้เป็นสัดส่วน

พี่เข้าใจว่าน้อง ๆ แต่ละคนมีจำนวนของสิ่งที่ต้องทำแตกต่างกัน และน้อง ๆ บางคนก็อาจจะจัดตารางเรียน จัดเวลาอ่านหนังสือวันละ 16 ชม.ไปเลยยย เพราะเห็นว่าตัวเองอยู่บ้านทั้งวัน แต่พี่ ๆ BASE Playhouse ได้พิสูจน์แล้วว่า การตะลุยอ่านหนังสือแบบไม่หาเวลาพักให้ตัวเองนั้นอาจทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาไม่ดีเท่ากับการแบ่งเวลาอ่านและพักในอัตราส่วนที่เหมาะสม

แนะนำให้น้อง ๆ หาจุดสมดุลระหว่างการเรียนและการผ่อนคลายของตนเองให้เจอ ทุกคนไม่ได้มีเวลาที่ควรอ่านและพักเท่ากัน อัตราส่วนของเวลาเรียนและเวลาพักที่ดีที่สุดของแต่ละคน คือ อัตราส่วนที่เราจะสามารถทำได้ต่อเนื่อง ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจนเกินไปค่ะ เราอาจจะต้องค้นหาไปเรื่อย ๆ หรือทดลองใช้สูตรแบ่งเวลาแบบต่าง ๆ เช่น Pomodoro หรือการแบ่งเวลาอ่านหนังสือ 25 นาที แล้วพัก 5 นาที เป็นรอบ ๆ นั่นเอง 

ถ้าน้อง ๆ นำเทคนิคจัดการเวลาไปลองใช้กันแล้ว ก็อย่าลืมนำผลลัพธ์มาบอกพี่ ๆ CAMPHUB และพี่ ๆ BASE Playhouse กันด้วยน้า


และที่สำคัญ อย่าลืมแบ่งเวลามา Upskill เพิ่มกับพี่ ๆ BASE Playhouse ในเรียนคอร์สออนไลน์ PRACT by BASE Playhouse เรียนจากที่ไหนก็ได้ สนุก นำไปปรับใช้ได้จริง มี 3 หลักสูตรยอดฮิต ได้แก่ 

  • คอร์ส Time Management for TCAS เทคนิคการจัดการเวลาเพื่อจัดการ TCAS เข้าใจพื้นฐานจัดการเวลา รู้หลักการที่นำไปใช้ได้จริง 
  • คอร์สPassion Exploration ตามหา Passion เพื่อให้สามารถตอบตัวเองได้ว่าคณะไหนที่ใช่สำหรับเรา และ Passion ของเราหน้าตาเป็นยังไง ที่สำคัญคือสกิลนี้ใช้ได้ตลอดชีวิต
  • คอร์ส Growing In Psych Youเป็นวัยรุ่นไม่ต้องทนเจ็บปวด จิตวิทยาเชิงบวกช่วยได้ เรียนรู้การจัดการความสัมพันธ์ และดูแลอารมณ์ภายในด้วยวิธีที่สร้างขึ้นด้วยตัวเอง 

น้อง ๆ สามารถติดตามรายละเอียดของคอร์สออนไลน์จาก BASE Playhouse จากพี่ ๆ ได้ทาง Line: @BASEPlayhouse หรือทาง Facebook page: BASE Playhouse เช่นเดิมค่า กระซิบว่าช่วงนี้มีราคาพิเศษด้วย น้อง ๆ ไม่ควรพลาดเลยน้า

สำหรับตอนหน้า พี่มะแม้วจะพาน้อง ๆ ไปรู้จักตัวเองให้มากขึ้น และรู้วิธีจัดการกับอารมณ์ของตัวเองกันในช่วงอยู่บ้านแบบนี้! ถ้าน้อง ๆ คนไหนสนใจ อย่าลืมติดตาม CAMPHUB Upskill by BASE Playhouse ตอนต่อไปกันน้า บ๊ายบายค่า 

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

BASE Playhouse

ข้อมูลผู้เขียน

พี่ออฟ

เราพี่ออฟ สาระไม่ค่อยมีหรอก หน้าตาดีไปวันๆ :p
หากน้องๆ มีปัญหาอะไร เข้ามาสอบถามได้น้า เดะตอบได้จะตอบให้