กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า
CAMPHUB idol

“พี่บิวกิ้น” รุ่นพี่บริหารอินเตอร์ ธรรมศาสตร์ กับบทบาทนักแสดงสุดฮอตจากบ้านนาดาว

All About P’Billkin..

  • พี่บิวกิ้นสอบ SAT คะแนนถึงบริหารอินเตอร์ จุฬาฯ ได้ตั้งแต่ ม.5 เทอม 1 แต่กลับเลือกใช้ชีวิตมัธยมปลายให้คุ้ม แล้วยื่นเข้าธรรมศาสตร์แทน
  • แพชชั่นในการทำธุรกิจ คือสิ่งที่ทำให้พี่บิวกิ้นตัดสินใจเลือกเรียนบริหารอินเตอร์สาขาการตลาดที่ธรรมศาสตร์
  • การที่ตัวละครหมอเต่าเสียชีวิตในรักฉุดใจนายฉุกเฉิน เกิดจากความอยากลองมีประสบการณ์ใกล้ตายของบิวกิ้นเอง
  • ถึงคิวงานจะรัดตัวแต่ก็ให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นหลัก ต้องเข้าเรียนให้ไม่ต่ำกว่า 70 %
อย่าลืมแอดไลน์ @CAMPHUB

สวัสดีจ้าน้องๆ แคมป์ฮับทุกคน พบกับ “แคมป์ฮับไอดอล” ต้อนรับปีหนู 2020 วันนี้พี่จั๊มพ์และพี่มยุก จะพาน้องๆ มาทำความรู้จักกับ “หมอเต่า” เอ้ย.. “พี่บิวกิ้น” พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล รุ่นพี่บริหารอินเตอร์ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (BBA) และบทบาทที่ทุกคนต่างรู้จักกันในฐานะนักแสดงและนักร้องจากบ้านนาดาว พี่บิวกิ้นรู้จักวางแผนชีวิตอย่างไรให้เก่งรอบด้านขนาดนี้ มาฟังแนวคิดของพี่บิวกิ้นกันนน..


แนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักกันหน่อย

สวัสดีครับน้องๆ ชาวแคมป์ฮับ ผม “บิวกิ้น” พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ตอนนี้เรียนอยู่ปี 2 บริหารอินเตอร์ หรือที่เรียกว่า BBA มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครับ


ที่มาของชื่อ “บิวกิ้น” มาจากไหน

ความจริงชื่อบิวกิ้นไม่มีความหมายครับ มีแต่ที่มา คือที่บ้านคุณพ่อชอบการ์ตูนดิสนีย์ พี่คนโตชื่อมิกกี้ คนที่สองชื่อวินนี่ ตอนแรกพ่อจะให้ผมชื่อ “อียอ” แต่กลัวมันจะประหลาด เลยให้ชื่อ “บิว” แทน แต่ดูเหมือนไม่ได้มาด้วยกัน 555 จนวันหนึ่งพี่คนโต ตอนนั้นอายุประมาณ 3-4 ขวบ ยังพูดไม่ชัด ก็เรียกผมว่า “บิวกิ้น” แล้วคุณพ่อชอบ ก็เลยให้ใช้ชื่อไปเลยนี้ครับ


คติประจำใจของบิวกิ้น

เราจะทำอะไรก็ได้ ใช้ชีวิตยังไงก็ได้ที่เรามีความสุข แต่ว่าต้องไม่เป็นภาระและเบียดเบียนคนอื่นเท่านั้นเองครับ

ใช้ชีวิตยังไงก็ได้ที่เรามีความสุข แต่ว่าต้องไม่เป็นภาระและเบียดเบียนคนอื่น

คติประจำใจของพี่บิวกิ้น – พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล

มีไอดอลในดวงใจคนไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า

เอาจริงๆ ผมไม่มี ผมรู้สึกว่าถ้าเรามีไอดอลเป็นใคร มันแปลว่าเราอยากไปมีชีวิตแบบเขา ในเมื่อมันไม่มีอะไรเหมาะกับเรามากกว่าตัวเราเอง ผมว่าเราเป็นตัวของเราเองให้ดีที่สุด แล้วก็ใช้ชีวิตแบบที่เราอยากทำ มันก็เหมาะกับเราที่สุดแล้ว


เวลาว่างบิวกิ้นชอบทำอะไรเอ่ย

เวลาว่างจากการเรียนและทำงาน ผมจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกคือการพักผ่อน ก็อาจจะไปเที่ยว เดินเล่น ดูหนัง ฟังเพลง นอน กับอีกส่วนนึงเป็น การพัฒนาตัวเอง เราสามารถพัฒนาตัวเองไปด้านไหนได้อีก ในสิ่งที่เรากำลังทำหรือว่าอยากลองทำ ผมรู้สึกว่าชีวิตเรายิ่งมีประสบการณ์เยอะหรือเรียนรู้เยอะ จะยิ่งเป็นกำไรต่อชีวิตเรา


การพัฒนาตัวเองของบิ้วกิ้นเป็นยังไงบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย

ผมจะชอบหาคอร์สเรียนครับ ผมรู้สึกว่าถ้าเรามีเวลา 10 ชั่วโมง ระหว่างเราไปนั่งศึกษาเองกับไปลงเรียนหรือไปคุยกับคนที่เขาเชี่ยวชาญทางด้านนั้นๆ อย่างหลังเราจะใช้เวลาน้อยกว่า ยิ่งผมไม่ค่อยมีเวลา จะทำอะไรก็รู้สึกว่าอยากจะทำให้เร็ว อยากจะฝึกเล่นเปียโน เราก็อยากจะเล่นให้เป็น อยากจะเล่นเป็นเพลง ก็เลยรู้สึกว่าเรียนกับคนที่เขารู้ดีกว่า จะได้ไปถูกทาง


แล้วตอนนี้เรากำลังเรียนคอร์สอะไรอยู่บ้าง

ช่วงนี้กำลังจะลงเรียนคอร์สเปียโนครับ คือตอนนี้ผมทำเพลงกับนาดาวมิวสิค ซึ่งเป็นค่ายเพลงของนาดาวบางกอก และผมก็รู้สึกว่าทักษะร้องผมเริ่มอยู่ตัวแล้ว เลยอยากจะหาทักษะอีกด้านนึงเพิ่ม ส่วนที่ผ่านมาก็มีคอร์สการแสดง ร้องเพลง แต่ก็เรียนจบไปหมดแล้วครับ


จุดเริ่มต้นของการเข้าวงการ 

วันหนึ่งผมไปงานที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งแถวปิ่นเกล้า ตอนนั้นผมอยู่ประมาณ ม.4-5 เป็นเด็กนักเรียน ใส่ชุดนักเรียนไปดูฟิตเนสแบบนั้นเลย แล้วพอดีคุณพ่อผมเป็นเพื่อนกับน้าก้อง ปิยะ (ดารานักแสดงและผู้จัดละครช่อง 3) วันนั้นเจอกันพอดี เขาก็เข้ามาคุย คุยไปคุยมาผมก็เลยมาลองแคสต์ดูฮะ ปรากฏว่ามันก็สนุก และก็ชอบด้วย


การได้เล่นละคร “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” เป็นยังไงบ้าง

อันนี้ถือว่าเป็นโปรเจกต์ใหญ่ โปรเจกต์แรกของผมเลย ผมไม่เคยเล่นละครมาก่อนเลย ยังไม่ค่อยรู้กระบวนการทำงานเท่าไหร่ ทุกอย่างเป็นการเรียนรู้ใหม่สำหรับผมไปหมดเลยฮะ ตั้งแต่เริ่มเวิร์กช็อปจนจบการถ่าย หรือว่าการโปรโมต มันใหม่มากๆ สำหรับผม ซึ่งผมรู้สึกว่าผมชอบมาก คือเวลาเราทำอะไรที่เรารู้สึกว่ามันเป็นตัวเอง มันเลยมีความสุขที่จะทำ ต่อให้ต้องตื่นเช้าถ่ายตีสี่ ยันข้ามคืนไปอีกวัน ผมก็ยังแฮปปี้นะ

เวลาเราทำอะไรที่เรารู้สึกว่ามันเป็นตัวเอง มันเลยมีความสุขที่จะทำ ต่อให้ต้องตื่นเช้าถ่ายตีสี่ ยันข้ามคืนไปอีกวัน ผมก็ยังแฮปปี้นะ


ในละครที่ลองสวมบทเป็นหมอฝึกหัด ทำให้เราได้มุมมองต่ออาชีพหมอยังไงบ้าง

อีกอย่างนึงที่ผมได้จากการเล่นละครเรื่องนี้คือการใช้ชีวิตเป็นหมอ ก่อนที่เราจะถ่ายทำต้องมีการเวิร์กช็อป ทั้งการแสดง ความเข้าใจ ความรู้สึก กระบวนการคิดของคนเป็นหมอ และก็ความรู้เกี่ยวกับแพทย์ด้วยครับ ผมรู้สึกว่าพอเราไปคุยกับหมอ มันทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้น ว่าบางทีคำพูดหรือว่าการตัดสินใจทำอะไรของแพทย์ มันจะมีหลักการของมันอยู่ อย่างเช่น แพทย์ไม่ควรโกหกคนไข้และญาติเรื่องอาการ อะไรประมาณนี้ อันนี้ผมก็เพิ่งรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่สอนอยู่ในศาสตร์ของการแพทย์ด้วย เหมือนเป็นการเปิดโลกในมุมมองการแพทย์ของเรามากๆ เริ่มจากศูนย์เลย


คนเขียนบทตั้งใจให้ตัวละคร “หมอเต่า” มาเพื่อตายแต่แรกเลยใช่มั้ย แล้วบิวกิ้นรู้ตั้งแต่แรกเลยรึเปล่า

ความจริงคือพี่ๆ ทีมงานเขาสัมถาษณ์นักแสดงแต่ละคนว่า แต่ละคนอยากมีความท้าทายอะไร ตอนที่เขายังเขียนบทไม่เสร็จ เหมือนเอามาเป็นไอเดียว่าจะสามารถเป็นไปได้ หรือเป็นไปไม่ได้ เหมาะสมแค่ไหน และตอนผม ผมก็พูดเล่นๆ ว่า ผมอยากเล่นเป็นคนที่ตายฮะ อยากลองมีประสบการณ์กับการที่คนเราเชื่อว่าเรากำลังจะตาย ต้องรู้สึกแบบไหน อะไรแบบนี้ พี่เขาก็เลยจัดให้.. 5555

อยากลองมีประสบการณ์กับการที่คนเราเชื่อว่าเรากำลังจะตาย ต้องรู้สึกแบบไหน


ถามถึงเรื่องเรียนกันบ้าง ทำไมถึงเลือกเรียนบริหารธุรกิจ

เพราะว่าผมมีแพชชั่นเกี่ยวกับการทำธุรกิจครับ คือครอบครัวของผมเป็นคนจีน ที่บ้านทำกงสี ตั้งแต่เด็กเราก็เคยไปช่วยงานที่บ้าน เคยไปดูโรงงาน คงเป็นสิ่งที่ทำให้เรามีแพชชั่นด้านนี้ด้วย ผมรู้สึกว่ามันเจ๋งตรงที่การเรียนบริหารธุรกิจ คือการที่เราไปเรียนเพื่อเอาแนวคิดมากกว่า มันคือการคิดวิเคราะห์ การบริหาร การจัดการ ในที่นี้รวมถึงการจัดการชีวิตด้วย ซึ่งผมว่าจบบริหารมาไม่จำเป็นต้องเป็นนักธุรกิจนะ เป็นอะไรก็ได้ แต่ว่าเราจะมีกรอบความคิดการบริหารติดตัวอยู่เสมอ 


คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มีกี่สาขา   

ถ้าเป็นคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ภาคปกติ จะแบ่งเป็น 2 หลักสูตรคือ หลักสูตรบัญชีบัณฑิต จะมีสาขาเดียว คือการบัญชี และหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต มี 7 สาขา คือ 1. การเงิน 2. การตลาด 3. ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ 4. การบริหารองค์การ การประกอบการ และทรัพยากรมนุษย์ 5. บริหารการปฏิบัติการ 6. บริหารธุรกิจระหว่างประเทศ โลจิสติกส์ และการขนส่ง และ 7. ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยภาคปกติจะเรียนที่ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต

ส่วนของ หลักสูตรนานาชาติ (BBA) เป็นหลักสูตรที่ผมเรียนอยู่ จะมี 3 สาขา ซึ่งเราสามารถเลือกเป็น Major (สาขาหลัก) ควบกับ Minor (สาขารอง) ได้ เช่น เรียน Major การเงิน กับ Minor การบัญชี หรืออีกแบบหนึ่งก็คือ ‘Double Major’ คือจับคู่ไหนก็ได้ ใน 3 สาขาได้หมดเลยครับ

  1. การบัญชี (Accounting) เน้นพัฒนาทักษะในการแปลความหมายของข้อมูลทางการบัญชีและการเงินเพื่อนำมาใช้ในการวางแผน และการตัดสินใจที่สำคัญๆ ทางธุรกิจ
  2. การตลาด (Marketing) วิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดได้อย่างลึกซึ้งและทันเหตุการณ์ สามารถกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพเพื่อนำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จและดำรงอยู่อย่างยั่งยืน
  3. การเงิน (Finance) เรียนรู้แนวคิดและพัฒนาทักษะการตัดสินใจทางการเงินเพื่อสร้างมูลค่าแก่กิจการ การลงทุนในโครงการต่างๆ รวมทั้งการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน

ส่วนอีกหลักสูตรนึง จะเป็น หลักสูตรควบตรี-โท ก็คือจะเพิ่มจากการเรียน 4 ปี ไปเป็น 5 ปี แต่ว่าจะได้ทั้งปริญญาตรีและปริญญาโทเลย โดยช่วง 3 ปีครึ่งแรก จะเป็นการเรียนระดับปริญญาตรี มีให้เลือก 2 สาขาด้วยกัน ได้แก่ 1. การบัญชีธุรกิจแบบบูรณาการ และ 2. การจัดการธุรกิจแบบบูรณาการ ส่วน 1 ปีครึ่งหลัง จะเป็นการเรียนระดับปริญญาโท จะมีให้เลือก 3 สาขาด้วยกัน ได้แก่ 1. การบัญชีธุรกิจแบบบูรณาการ 2. การบริหารการตลาด และ 3. การบริหารการเงิน ซึ่งทั้งหลักสูตรนานาชาติ และหลักสูตรควบตรี-โท จะเรียนที่ธรรมศาสตร์ศูนย์ท่าพระจันทร์ครับ

น้องๆ คนไหนสนใจคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็สามารถเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรของคณะเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยจ้า


บิวกิ้นเลือกเรียนสาขาอะไร 

ผมเลือกเรียนการตลาดครับ ผมรู้สึกว่าการเรียนการตลาดคือการทำยังก็ได้ เพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย เหมือนมีกระดาษแผ่นหนึ่งที่เราจะวาดอะไรก็ได้ มันไม่มีกรอบ แต่ใช้ไอเดีย การวิเคราะห์เพื่อให้ไปถึงจุดหมายที่เราต้องการก็พอ


ตอนสอบเข้ายากมั้ย มีวิธีการเตรียมตัวยังไง

จริงๆ ผมวางแผนไว้ตั้งแต่อยู่ ม.4 แล้วว่าผมอยากเข้า BBA ผมรู้สึกว่าต้องรีบค้นตัวเองให้เจอ ไม่งั้นเราจะไปไม่ถูกในภาพที่เราอยากเห็น พอผมรู้ตัวตั้งแต่ ม.4 ผมเริ่มเลยฮะ เรียน SAT ตั้งแต่ปิดเทอม ม.4 ขึ้น ม.5 ช่วงนั้นผมเรียนเยอะมาก ในหนึ่งอาทิตย์ผมเรียน 5 วัน ตอนเปิดเทอมผมก็ไปเรียนพิเศษตอนเย็นหมดเลย จันทร์ถึงศุกร์ 5 โมง ถึง 1 ทุ่ม  ส่วนเสาร์อาทิตย์เรียนเช้าบ่ายๆ เพื่อที่ว่าจะรีบอัดให้มันเสร็จให้มันจบดีกว่า เพราะคะแนน SAT สามารถสอบเก็บคะแนนไว้ได้ 2 ปี ผมใช้เวลาภายใน ม.5 เทอม 1 ก่อนจะปิดเทอม ผมสอบได้คะแนนที่ต้องการ ละผมก็เลยสบาย ส่วนเทอมสองที่เหลือกับ ม.6 ทั้งปี ผมไปเรียนไปสนุกไปใช้ชีวิตม.ปลายให้คุ้มมากกว่า

ผมรู้สึกว่าต้องรีบค้นตัวเองให้เจอ ไม่งั้นเราจะไปไม่ถูกในภาพที่เราอยากเห็น


ได้ข่าวว่าสอบติดจุฬาฯ ตั้งแต่ ม.5

ใช่ครับ ตอนนั้นคุยกันว่าผมจะต่อ ม.6 ดีมั้ย เหมือนกับสอบเทียบเข้าจุฬาฯ ไปเลย แต่ว่าผมไม่เอา ผมจะรออีกปี ผมอยากเรียน ม.6 เพราะรู้สึกว่าเราไม่จำเป็นต้องรีบ เราสามารถใช้ชีวิต ม.ปลายได้ เดี๋ยวโตไปมันเหมือนกับว่าเราข้ามชีวิตไปช่วงหนึ่ง เลยใช้ชีวิต ม.6 แบบสนุกกับมันดีกว่า พอโตไปเราจะได้ไม่เสียดายว่าเราใช้ชีวิตไม่คุ้มค่าแล้วพอข้ามมาอีกปี ค่าเฉลี่ยคะแนน SAT ขึ้น เขาตัดอันดับคะแนน คะแนนผมขาดไป 10 คะแนนฮะ แต่ผมก็ไม่เสียดายนะครับ พอเข้าจุฬาฯ ไม่ได้ ก็ได้เข้าธรรมศาสตร์แทน ซึ่งผมก็รู้สึกโอเคนะครับที่ได้ติดที่นี่


บิวกิ้นสอบ SAT ไปทั้งหมดกี่รอบกว่าจะได้คะแนนที่ต้องการ  

3 รอบครับ รอบแรกไปสอบแบบไม่ได้เรียน ไปลองก่อน แต่รอบแรกเป็นระบบเก่า (Old SAT) คือข้อสอบก่อนที่จะปรับมาเป็นระบบใหม่ (New SAT) ครับ พอผมไปสอบครั้งแรก ผมก็ต้องมาปรับตัวใหม่อีก เพราะรูปแบบข้อสอบมันไม่เหมือนเดิม แต่ก็คล้ายๆ เดิม ช่วงนั้นผมตั้งใจสอบให้ได้คะแนนที่ต้องการให้ได้ เลยไปลงเรียนอย่างหนัก รีบอัดให้จบ 5555 เราจะได้ไปทำอย่างอื่น ผมไม่ทำอะไรเลยช่วงนั้น เรียน SAT อย่างเดียว ทั้งเหนื่อยและเครียด แต่พอสอบได้คะแนนแล้วมันก็แบบปริ่มอะ ละก็คุ้มจริงๆ เพราะอีกปีกว่าๆ หลังจากนั้นมันก็เป็นเวลาพักผ่อนของเรา ที่คนอื่นจะแบบเครียดๆ เราก็ใช้ชีวิตแบบสบายๆ


ช่วยเล่าบรรยากาศการเรียนที่ BBA ธรรมศาสตร์ หน่อย

ความจริงคณะอินเตอร์ที่ใช้คะแนน SAT ยื่น ที่มีอันดับคะแนนสูงสุดจะมี 2 คณะ คือ BBA จุฬาฯ กับ BBA ธรรมศาสตร์ ซึ่งจะไล่ๆ กัน เด็กที่มาเรียนส่วนมากจะเป็นเด็กที่มีอันดับคะแนนใกล้ๆ กัน แต่ละคนจะมีความเจ๋งในตัวอะฮะ ผมรู้สึกว่าเวลาที่เราไปเรียนวิชาคณะ มันต้องใช้พลังงานเยอะมากกับการที่เราจะถีบตัวเองให้ไปถึงค่าเฉลี่ยของห้อง หรือว่าการที่เราจะรักษาระดับคะแนนตัวเองครับ


ยกตัวอย่างวิชาที่เราชอบเรียนที่คณะให้ฟังหน่อย

อย่างผมเรียนสาขาการตลาด ก็จะมีวิชาหลักอย่างการตลาด (Marketing) พฤติกรรมลูกค้า (Consumer Behavior) การจัดการช่องทางการจำหน่าย (Distribution Channels Management) วิชาเหล่านี้ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นประโยชน์ ยิ่งมีความรู้ในเรื่องนี้ยิ่งทำให้เรานำไปคิดไอเดีย หรือประยุกต์ใช้ได้เยอะครับ


มีวิธีแบ่งการทำงานกับเวลาเรียนอย่างไรบ้าง

ผมจะใช้เวลาเรียนเป็นหลัก เวลาเรียนต้องไปให้ไม่ต่ำกว่า 70% ขาดมากสุดต่อคลาสเรียนก็ประมาณ 2-3 ครั้ง ส่วนงานจะเลือกทำให้ไม่ตรงกับตารางเรียน ละบางครั้งถึงตามไม่ทันก็จะมาตามช่วงสอบ ซึ่งผมคิดว่าผมชอบการเรียนในมหาลัยมากกว่ามัธยมนะ เพราะบริหารเวลาตัวเองได้ 


บิวกิ้นทำงาน ในวงการบันเทิงตั้งแต่ ม. 4 ตอนนั้นเริ่มมีลังเลเรื่องคณะที่จะเข้าบ้างมั้ย

ม่เลยครับเพราะผมมีแพชชั่นเกี่ยวกับการตลาดมาตลอด การได้ทำงานในวงการบันเทิงถือว่าเป็นกำไรชีวิตมากกว่า คิดแค่ว่าเราจะใช้เวลาที่เรามีให้มันคุ้มค่ามากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่ได้ทำงานเล่นๆ นะครับ ผมก็จริงจังแต่ก็ไม่ได้ขนาดเรียนเพื่อไปทำงานตรงนั้นโดยตรง 



บิวกิ้นมีเทคนิคในการอ่านหนังสืออย่างไรให้จําได้

ผมเป็นคนนึงที่ไม่ชอบจด เวลาเรียนในห้องผมจะชอบนั่งฟังอย่างเดียว นั่งฟังให้เข้าใจจริงๆ ส่วนเวลาอ่านหนังสือสำหรับผมคิดว่าการอ่านมากรอบไม่ได้มีผล การอ่านให้เข้าใจสำคัญกว่า สมมุติถ้าเราอ่าน 3 รอบ อ่านแล้วก็ผ่านแต่เราไม่เข้าใจก็เท่านั้น บางหน้าผมอ่านแต่ก็หยุดเป็นชั่วโมงก็มี คืออ่านจนกว่าเราจะเข้าใจมันจริงๆ เพราะถ้าเราท่องต่อให้เราจำได้ พอเราเรียนจบไปเราก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

อ่านจนกว่าเราจะเข้าใจมันจริงๆ เพราะถ้าเราท่องต่อให้เราจำได้ พอเราเรียนจบไปเราก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

เทคนิคในการอ่านหนังสือของพี่บิวกิ้น

มีวิธีเตรียมสอบอย่างไรไม่ให้เครียด วิธีให้กำลังใจตัวเองไม่ให้ท้อเวลาอ่านหนังสือ

สิ่งที่สำคัญคือต้องวางแผนดีๆ ผมเป็นคนนึงที่เวลาไฟลนก้นแล้วผมจะอ่านไม่รู้เรื่อง ผมจะต้องเตรียมตัวก่อนในทุกๆ เรื่อง ถ้าผมรู้ว่าผมจะต้องร้องเพลงใหม่ที่ไม่เคยร้อง ผมจะเตรียมซ้อมร้องไปก่อนเป็นอาทิตย์ ถ้าผมต้องสอบอาทิตย์หน้า ผมก็จะไล่อ่านเนิ่นๆ มาเรื่อยๆ ส่วนวันก่อนสอบผมจะแค่อ่านทวนสรุป


ทุกวันนี้ถือว่าเราค้นพบตัวเองเจอแล้วว่าเราอยากทำอะไรในชีวิต แล้วหรือยัง

ผมยังไม่ปิดกันนะ เพราะชีวิตมันยังโตไปอีกเรื่อยๆ มันก็เรียนรู้ไปอีกเรื่อยๆ ในอนาคตเราอาจจะรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ใช่ก็ได้ เราก็แค่หยุดทำอะไรที่ทำแล้วมันเป็นความสุข ซึ่งตอนนี้ในส่วนของวงการบันเทิงคือความสุขของผม


เป้าหมายในอนาคตของบิวกิ้นคืออะไร

แค่มีความสุขในชีวิตครับ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจบไปอายุ 30 ต้องมีเงินพันล้าน ผมรู้สึกว่าการมีเงินพันล้านมันก็ไม่ได้ตอบโจทย์ของผม ผมแค่อยากเลือกทำอะไรที่มันรู้สึกว่าผมทำแล้วมีความสุขครับ


สิ่งที่ได้เรียนรู้จากวัย 20 ปีที่ผ่านมา

ผมรู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตโคตรคุ้มเลย อายุเท่านี้ก็ได้ทำอะไรที่ตัวเองอยากทำแล้ว ได้โอกาสที่คนอีกหลายๆคนอยากทำ โชคดีที่เราได้มีโอกาสได้ลอง แล้วบังเอิญว่าเป็นสิ่งที่เราชอบด้วย อย่างบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร แต่ผมว่าผมโชคดีที่รู้ตัวเร็ว 


ครอบครัวมีบทบาทอะไรสำคัญต่อชีวิตของเราบ้าง 

ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เป็นแกนสำคัญของมนุษย์ก็คือครอบครัวครับ ถึงแม้ว่าเราจะไปทำอะไรที่เขาเข้าใจหรือไม่เข้าใจ เราจะผิดหรือจะถูก เขาจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ไปไหน พวกเขาจะคอยซัพพอร์ตผมเสมอ เป็นความสัมพันธ์ที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากครอบครัวของเรา

แกนสำคัญของมนุษย์ก็คือครอบครัวครับ ถึงแม้ว่าเราจะผิดหรือจะถูก เขาจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ไปไหน จะคอยซัพพอร์ตผมเสมอ


สามารถติดตามผลงานของบิวกิ้นได้ทางไหนได้บ้าง

สำหรับผลงานในอดีตใครว่างๆ ก็ไปติดตามละครรักสุดใจ นายฉุกเฉินได้นะครับ ทั้งทาง LINE TV Netflix และ YouTube ส่วนเพลงก็มี You are my everything ไปฟังกันได้นะครับ และตอนนี้ ผมกับพี่ๆ จากรายการ Love Mission ในปี 2559 ก็กลับมารวมตัวอีกครั้งในรายการเที่ยวมั่วซั่ว ทาง Facebook เที่ยวมั่วซั่ว และ YouTube GooddayOfficial นะครับ รวมถึงผลงานใหม่ๆ ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ ก็ขอฝากให้ติดตามกันด้วยนะคร้าบ..


ฝากถึงน้องๆ ที่กำลังค้นหาตัวเองหน่อยจ้า

ฝากถึงน้องๆ มัธยมทุกคนนะครับ ให้พยายามหาตัวเองให้เจอ ถ้าเราหาตัวเองเจอก่อนมันก็จะได้เปรียบคนอื่น วิธีค้นหาตนเองก็คือให้น้องๆ ไปลองอะไรหลายๆ อย่างครับ ลองคิดก่อนว่าเราชอบอะไร แล้วเราไปลองเลย แล้วพอไปลองเราจะได้คำตอบเลยว่าใช่หรือไม่ใช่ บางทีลองแล้วใช่ ลองไปเรื่อยๆ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ สิ่งที่คิดว่าไม่ใช่ ไปลองแล้วมันอาจเป็นสิ่งที่ใช่สำหรับเราก็ได้ เดี๋ยวนี้ก็มีค่ายหรือกิจกรรมต่างๆ ให้น้องได้ลองเยอะไปหมด จริงๆ ถ้าน้องๆ อยากรู้ว่าคณะไหนเขาเรียนอะไรกัน ก็สามารถเข้าไปในเว็บไซต์คณะต่างๆ ได้เลย เขาก็จะมีหลักสูตรบอกว่าเรียนอะไรบ้างไว้หมด ขอให้ใช้ชีวิตให้มีความสุข แล้วก็อย่าเครียดมาก วางแผนชีวิตตัวเองให้ดีนะครับ สู้ๆ!

พยายามหาตัวเองให้เจอ ถ้าเราหาตัวเองเจอก่อนมันก็จะได้เปรียบคนอื่น


3 ค่ายนี้.. บัญชี-บริหาร จัดเต็ม!!

Bizclub Banshi Camp บัญชี จุฬาฯ

ค่ายที่เปิดโอกาสให้น้องๆ มัธยมศึกษาปลายได้เรียนรู้เกี่ยวกับคณะบัญชี จุฬาฯ มากขึ้น! และสนุกกับการทำแผนธุรกิจจริง ค่ายนี้เพิ่งจัดไปเมื่อ 16-17 พ.ย. ที่ผ่านมา ปีหน้าค่ายนี้มาเมื่อไหร่ เดี๋ยวแคมป์ฮับมารีบบอกน้องๆ เลย


BBA Camp บัญชี จุฬาฯ

ค่ายแนะแนวจากพี่ๆ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ ที่จะพาน้องๆ ไปจำลองสถานการณ์ชีวิตใน BBA เป็นเวลา 3 วัน ได้รู้ว่าน้องๆ เหมาะกับ BBA รึเปล่า แต่น่าเสียดาย ค่ายเพิ่งจัดไปวันที่ 9-11 พ.ย. 2562 ปีหน้าค่ายนี้มาเมื่อไหร่ เดี๋ยวพี่ๆ แคมป์ฮับรีบมาบอกน้องๆ นะ


TBS Junior Camp บัญชี ธรรมศาสตร์

ค่ายที่จะทำให้น้องๆ ได้เรียนรู้ทั้งด้านการเรียนภายในคณะ กิจกรรม ชีวิตความเป็นอยู่และแนะแนวสายการเรียนทางด้านบัญชีและบริหารจากรั้วคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ค่ายนี้จัดไปเมื่อ 25-27 ตุลาคม 2562 ที่ผ่านมา แต่ไม่ต้องเสียใจ ค่ายนี้จัดอีกทีเมื่อไหร่ พี่ๆ แคมป์ฮับจะรีบมาบอกให้น้องๆ จ้า

ทั้ง 3 ค่ายนี้ เป็นเพียง 3 ค่ายจากหลากหลายค่ายในด้านการบัญชีและบริหาร น้องๆ สามารถดูค่ายทั้งหมดได้ที่ camphub.in.th/acc-econ และน้องๆ ยังสามารถไปงานเปิดบ้านของคณะในด้านนี้ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ สามารถดูงานเปิดบ้านของมหาวิทยาลัยต่างๆ ได้ที่ camphub.in.th/type/openhouse น้าาา..


สำหรับแคมป์ฮับไอดอลวันนี้ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ยยย หวังว่าน้องๆ จะได้แรงบัลดาลใจและกำลังใจจากพี่บิวกิ้นกันนะ ถ้าน้องๆ อยากบอกต่อเพื่อนๆ เกี่ยวกับบริหารอินเตอร์ (BBA) ธรรมศาสตร์ และเรื่องราวดีๆ จากพี่บิวกิ้น ก็กดแชร์ต่อให้เพื่อนๆ กันได้เลย ส่วนใครที่ไม่อยากพลาดข่าวค่ายดีๆ จากแคมป์ฮับล่ะก็.. แอดไลน์ไว้เลย ที่ @camphub (มี @ ด้วยนะ) หรือคลิกที่นี่ได้เลยจ้า สำหรับวันนี้ พี่จั๊มพ์ พี่มยุก และพี่บิวกิ้น ขอลาไปก่อนน้า พบกันใหม่ตอนหน้า บ๊ายบายยย

อย่าลืมแอดไลน์ @CAMPHUB

แคมป์ฮับไอดอล พี่บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล
บทความ พี่จั๊มพ์ พี่มยุก แคมป์ฮับ
ถ่ายภาพ พี่โอ แคมป์ฮับ
กราฟิก พี่เต้ย แคมป์ฮับ
ประสานงาน พี่ฟิวส์ พี่โบ๊ช แคมป์ฮับ
ขอขอบคุณสถานที่ เดอะซีซั่น มอลล์ พหลโยธิน และคาเฟ่ อเมซอน

กดแชร์เอาไว้อ่านทีหลัง หรือแชร์ให้เพื่อน คลิกด้านล่างเลยจ้า

ข้อมูลผู้เขียน

jump (พี่จั๊มพ์)