ข้อมูลเบื้องต้นของการประกวดแข่งขัน
รูปแบบของการแข่งขัน
การแข่งขันที่มีการจัดงานในสถานที่จริง
วันที่จัดกิจกรรม
ศุกร์ 7 พฤศจิกายน 2568
วันที่รับสมัครวันสุดท้าย
ศุกร์ 17 ตุลาคม 2568
การจัดทีมสมัครเข้าร่วม
ทีมละ 3 คน
(โรงเรียนเดียวกัน)
ค่าใช้จ่ายในการสมัคร
ฟรี
คุณสมบัติ (ระดับการศึกษา/ช่วงอายุ/อื่นๆ)
นักเรียน ม.ปลาย/ปวช.
ของรางวัล
รางวัลชนะเลิศ-ทุนการศึกษาจำนวน 15,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร/รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1- ทุนการศึกษาจำนวน 10,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร/รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2- ทุนการศึกษาจำนวน 5,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร/ รางวัลชมเชย 7 ทีม-ทุนการศึกษา ทีมละ 1,500 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตร
สถานที่จัดกิจกรรม
อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (LX) ชั้น 3, 10, 11, 14-15 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (อยู่ตรงไหน?)
กิจกรรมนี้จัดโดย (ติดต่อผู้จัด คลิกที่ไอคอนด้านล่าง)
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (SIT KMUTT)
คำอธิบายกิจกรรม
กติกา และข้อกำหนดการแข่งขัน ICT Challenge 2025
การแข่งขันตอบปัญหาวิชาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับน้อง ๆ นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
จัดแข่งขันวันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568
ณ อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (LX) ชั้น 3, 10, 11, 14-15 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มจธ.
- ประเภทการแข่งขัน
เป็นการแข่งขันประเภททีม สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวนสมาชิกทีมละ 3 คน คัดผู้เข้าร่วมแข่งขันเข้าสู่รอบคัดเลือกจำนวน 100 ทีม เพื่อสอบแข่งขันที่คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มจธ. - คุณสมบัติของผู้สมัครและทีม/เงื่อนไขการแข่งขัน
2.1 ผู้สมัครต้องกำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4 – ม.6) หรือเทียบเท่า
2.2 สมาชิกทั้ง 3 คนภายในทีมต้องมาจากโรงเรียนหรือสถาบันเดียวกัน
2.3 หลังจากลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน สมาชิกทุกคนในทีมจะได้รับ link แบบทดสอบความรู้พื้นฐานด้านไอทีทางอีเมลที่แจ้งไว้ตอนสมัครทันที แบบทดสอบจำนวน 10 ข้อ (Multiple choice/Multiple choose) โดยต้องส่งคำตอบภายในวันที่ 17 ตุลาคม 2568 เวลา 23.59 น. เพื่อใช้คะแนนเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกทีมที่มีสิทธิ์เข้าแข่งขันในรอบคัดเลือก 100 ทีม
2.4 แต่ละโรงเรียนมีสิทธิ์ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันได้ไม่จำกัด หากมีจำนวนทีมจากโรงเรียนเดียวกันสมัครมาหลายทีม คณะขอสงวนสิทธิ์โดยให้สิทธ์สูงสุดโรงเรียนละ 4 ทีมเข้าสู่การแข่งขันรอบคัดเลือก โดยใช้แบบทดสอบในข้อ 2.3 เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกทีมที่มีผลคะแนนสูงสุดและใช้เวลาในการทำแบบทดสอบน้อยที่สุด (นับเวลาเมื่อเริ่มทำข้อสอบ) ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้โรงเรียนอื่น ๆ ได้เข้าร่วมแข่งขัน
2.5 แต่ละทีมต้องมีอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทีม 1 คน โดยมีเงื่อนไขคือ
2.5.1 อาจารย์ที่ปรึกษาต้องเป็นอาจารย์ประจำโรงเรียนเดียวกันกับนักเรียน
2.5.2 ในกรณีที่โรงเรียนส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันหลายทีมสามารถมีอาจารย์ที่ปรึกษาคนเดียวกันได้ - กฎ กติกา และวิธีการแข่งขัน
- 3.1 ประเภทกลุ่มความรู้ที่ใช้ในการแข่งขันรอบคัดเลือก ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจากทีมที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกจะต้องทำข้อสอบแบบปรนัย ซึ่งเป็นการทดสอบวัดความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมด 4 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มเทคโนโลยีเครือข่าย และระบบปฏิบัติการ เนื้อหาเป็นความรู้เบื้องต้นด้านเทคโนโลยีเครือข่าย LAN WAN และ Internet เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้งานระบบปฏิบัติการ เช่น Windows/iOS/Android/LINUX/Virtual Machine
- กลุ่มการเขียนโปรแกรม และอัลกอริทึม เนื้อหาเกี่ยวกับขั้นตอนในการแก้ปัญหา แนวคิดการวิเคราะห์แก้ปัญหาโดยใช้ผังงาน (Flowchart) และรหัสเทียม (Pseudo Code) เพื่อแสดงอัลกอริทึม โดยใช้โครงสร้างแบบลำดับ โครงสร้างแบบมีทางเลือก โครงสร้างแบบทำซ้ำ และโครงสร้างแบบแถวลำดับ
- กลุ่ม Hardware/Infrastructure/Cloud Computing เนื้อหาเกี่ยวกับการทำงานของคอมพิวเตอร์ ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพิวเตอร์ และองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ประโยชน์ และองค์ประกอบของ Cloud Computing
- กลุ่ม Smart System and Artificial Intelligence เนื้อหาความรู้ด้าน Data Science/Machine Learning/AI เกี่ยวกับ แนวคิด การประยุกต์ใช้ และประโยชน์ของ Smart System
- 3.2 รูปแบบการแข่งขันรอบคัดเลือก 30 ทีม
- ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องทำข้อสอบแบบปรนัย (Computer-Based) ซึ่งเป็นการทดสอบวัดความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะนำคะแนนของสมาชิกทั้ง 3 คนภายในทีมมารวมกันเพื่อคัดทีมที่มีคะแนนสูงสุดจำนวน 30 ทีม ผ่านเข้าสู่การแข่งขันรอบถัดไป
- ในกรณีมีทีมที่ผลคะแนนรวมเท่ากัน และมีคะแนนสูงสุดมากกว่า 30 ทีม คณะกรรมการจะตัดสินจากเวลาที่ใช้ในการทำข้อสอบของคนสุดท้ายในทีม เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 30 ทีมสุดท้าย (กรณีสอบผ่านระบบเท่านั้น หากสอบโดยใช้กระดาษจะแจ้งกติกาให้ทราบอีกครั้งก่อนวันจัดแข่งขัน)
- ประกาศผลรอบคัดเลือก 30 ทีม ทางเว็บไซต์ https://events.sit.kmutt.ac.th และทางอีเมลผู้เข้าแข่งขัน
- 3.3 รูปแบบการแข่งขันรอบคัดเลือก 10 ทีม
- สมาชิกของแต่ละทีมจะต้องทำข้อสอบแบบปรนัย (Computer-Based) ร่วมกันซึ่งเป็นการทดสอบวัดความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใช้กลุ่มความรู้เดียวกันกับข้อ 3.1 เน้นความรู้กลุ่ม Programming ได้แก่ C Java Python ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง
- ในกรณีที่ทีมมีผลคะแนนรวมเท่ากัน และมีจำนวนทีมที่ผ่านเข้ารอบมากกว่า 10 ทีม คณะกรรมการจะตัดสินจากเวลาที่ใช้ในการทำข้อสอบ โดยทีมที่มีคะแนนเท่ากันในลำดับที่ 10 และใช้เวลาในการทำข้อสอบน้อยที่สุดจะเป็นทีมที่ผ่านเข้ารอบต่อไป (จำกัดโรงเรียนละ 2 ทีม)
- ประกาศผลรอบคัดเลือก 10 ทีม ณ ห้อง Auditorium ชั้น 3 อาคารการเรียนรู้พหุวิทยาการ (LX)
- 3.4 ประเภทกลุ่มความรู้ที่ใช้ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ทั้ง 10 ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ จะต้องเลือกตอบปัญหาความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศตามกลุ่มความรู้ที่กำหนดไว้ ทั้งหมด 4 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มเทคโนโลยีเครือข่าย และระบบปฏิบัติการ
- กลุ่มการเขียนโปรแกรม และอัลกอรึทึม
- กลุ่ม Hardware/Infrastructure/Cloud Computing
- กลุ่ม Smart System and Artificial Intelligence
- 3.5 รูปแบบการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
- แต่ละทีมจะมีสิทธิ์เป็นผู้เลือกคำถามทีมละ 2 ครั้ง ลำดับการเลือกคำถามของแต่ละทีม จะใช้ระบบ Random ทีมก่อน จากนั้นให้ทีมที่ถูก Random เลือกคำถาม 1 คำถามจากกลุ่มเนื้อหา 4 กลุ่ม
- แต่ละกลุ่มเนื้อหาประกอบด้วย 4 คำถาม โดยแต่ละกลุ่มคำถามจะมี 3 ระดับ ระดับง่าย 100 คะแนน ระดับปานกลาง 200 คะแนน และระดับยาก 300 คะแนน
- ทีมที่มีสิทธิ์เลือกคำถาม ถูกบังคับให้ตอบคำถามนั้น ๆ ส่วนทีมอื่น ๆ สามารถเลือกที่จะไม่ตอบคำถามที่ทีมไม่ได้เลือกได้ (ไม่จำกัดจำนวนครั้ง)
- ทีมที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจะได้รับรางวัลชนะเลิศ และทีมที่ได้คะแนนรวมรองลงมาจะได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ตามลำดับ ส่วน 7 ทีมสุดท้ายได้รับรางวัลชมเชย
- 3.1 ประเภทกลุ่มความรู้ที่ใช้ในการแข่งขันรอบคัดเลือก ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจากทีมที่ผ่านเข้ารอบคัดเลือกจะต้องทำข้อสอบแบบปรนัย ซึ่งเป็นการทดสอบวัดความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งหมด 4 กลุ่ม ดังนี้
- คณะกรรมการตัดสิน
คณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
การตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด